แหล่งท่องเที่ยว

อนุสาวรีย์พระยากงและพระยาพาน
     พญากงเป็นเจ้าเมืองนครชัยศรี มีพระมเหสีรูปโฉมงดงามเมื่อพระมเหสีทรงพระครรภ์โหรหลวงได้ทำนายว่าจะได้พระราชโอรสเป็นผู้มีบุญ และจะได้เป็นใหญ่ภายหน้า แต่จะเป็นผู้ฆ่าพระราชบิดาเมื่อครบ กำหนดพระมเหสีก็ประสูติพระกุมาร ขณะที่ข้าราชบริพารได้เอาพานไปรองรับ บังเอิญหน้าผากของพระกุมาร
กระทบขอบพานเป็นแผล พญากงได้สั่งให้นำพระกุมารไปทิ้งตามยถากรรม ยายหอมไปพบเข้านำไปเลี้ยงไว้ และตั้งชื่อว่า พาน ครั้นพานโตขึ้นยายหอมก็นำไปฝากให้เล่าเรียนที่วัดโคกยายหอม พานเป็นเด็กฉลาด สมภารวัดผู้เป็นอาจารย์จึงรักใคร่เอ็นดูมีวิชาอะไรก็สอนให้หมด
     อาจารย์ได้นำพานไปฝากให้เข้ารับราชการกับพระยาราชบุรี ที่เมืองราชบุรี พานเป็นคนปัญญาดี เรียบร้อยและขยัน จึงเป็นที่โปรดปรานของพระยาราชบุรีมาก จนถึงกับรับไว้เป็นโอรสบุญธรรม สมัยนั้น เมืองราชบุรีขึ้นกับเมืองนครชัยศรี พระยาราชบุรี ต้องส่งเครื่องบรรณาการทุกปี พญาพานเป็นผู้มีฝีมือในการรบจึงชักชวน ให้พระยาราชบุรีแข็งเมืองยกกองทัพไป ปราบพญากงโดยพญาพานเป็นแม่ทัพออกไป รบกับพญายากง ทั้งสองทำยุทธหัตถีกัน ในที่สุดพญากงก็ถูกฟันด้วยของ้าวคอขาดตายในที่รบ เมื่อพญายาพานเข้ายึดเมืองนครชัยศรีได้แล้ว ย่อมได้ทั้งราชสมบัติตลอดจนพระมเหสีของพญายากงด้วย แต่ในขณะที่จะเข้าไปหาพระมเหสีนั้น เทวดาได้แปลงกายเป็นแมวแม่ลูกอ่อนให้ลูกกินนมขวางประตูไว้ แล้วร้องทักเสียก่อน พญายาพานจึงได้อธิษฐานว่า ถ้าพระมเหสีเป็นแม่ของตนจริงก็ขอให้มีน้ำนมไหลซึมออกมา ก็เห็นน้ำนมไหลออกมาจริง จึงได้รู้ว่าทั้งสองเป็นแม่ลูกกัน พญายาพานต้องทำปิตุฆาตฆ่าพระราชบิดา เพราะยายหอมปิดบังความจริงไม่บอกให้รู้ ด้วยโทสะจริต เข้าครอบงำและกรรมนั้นบังตา ทำให้ขาดการยั้งคิด จึงสั่งให้นำยายหอมไปฆ่าเสีย ต่อมาด้วยความสำนึกผิด ที่ได้ฆ่าพระราชบิดาและยายหอมผู้มีพระคุณ จึงได้สร้างพระเจดีย์ขนาดใหญ่ สูงชั่วนกเขาเหิน คือ องค์พระปฐมเจดีย์ เพื่อเป็นการล้างบาปที่ฆ่าพระราชบิดาให้บรรเทาลงบ้าง และสร้างพระประโทนเจดีย์ เพื่อล้างบาปที่ฆ่ายายหอม

คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม


ลานแสดงช้างและฟาร์มจระเข้สามพราน
     ลานแสดงช้างและฟาร์มจระเข้สามพราน ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม กิโลเมตรที่ 30 อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ในเนื้อที่กว่า 130 ไร่ จัดเป็นสถานที่พักผ่อนที่เปิดให้ชมการแสดงระดับนานาชาติ ตั้งแต่ 08.30 - 17.30 น. ทุกวัน
     ชม..การแสดงช้างประกอบเสียง แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ชม..ประเพณีการคล้องช้างอันศักดิ์สิทธิ์ ความผูกพันของช้างกับชาวส่วย ผู้สืบทอดการเลี้ยงช้างมาหลายชั่วอายุคน ประทับใจ..กับความน่ารักของเจ้าช้างน้อย นักเต้นเท้าไฟ นักวิ่งลมกรด และดาวซัลโว
     ย้อนรำลึกถึง.. สงครามยุทธหัตถีที่ยิ่งใหญ่ และการแสดงอื่น ๆ อีกกว่า 10 รายการ ด้วยระบบ Sound Track และ Effect ประกอบการแสดงที่สมบูรณ์แบบ
     ตื่นเต้นระทึกใจกับ..การแสดงจับจระเข้โชว์ด้วยมือเปล่าจากหมอจระเข้ผู้สืบสานตำนานไกรทอง จับตา..การสาธิตวิธี ฝากเงินในปากเจ้าเขี้ยวคม และการหยอดหัวใส่ปากจระเข้ ทุกฉากไม่ควรกระพริบตา ชม..จระเข้สัตว์ยุคไดโนเสาร์์นับ หมื่นตัว ในฟาร์มที่ได้รับการยกย่องว่าสะอาดที่สุด และจัดระบบนิเวศน์ได้ลงตัวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก (Accredit by CITES 1991)
     และก้าวสู่โลกแห่งความพิศวงในโลกมายา จากนักมายากลเอกของเอเซียใน..การแสดงมายากลโชว์.. คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม

 สวนสามพราน
     เที่ยวสวนสามพราน เสาร์อาทิตย์วันหยุดพิเศษ มีรถรางนั่งฟรี หรือจะมาทานอาหารบุฟเฟต์นานาชาติ+ชมการแสดง 940.- 
     สำหรับคนไทยที่มาเป็นครอบครัว
ครอบครัวเที่ยวหนึ่งวัน 250.-บาท / ท่าน รวมบริการดังนี้
- ชมสวนสวยริมแม่น้ำ เก็บภาพความประทับใจ (สวนกล้วยไม้ สวนกุหลาบ สวนสมุนไพร เกาะแก้วพิศดาร ฯลฯ)
- รับประทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ เปิดบริการ เวลา 11.30-14.30 น. (ไม่รวมเครื่องดื่ม)
- เที่ยวชมตลาดริมคลอง เปิดบริการ เวลา 11.00-16.00 น.
- ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม และการแสดงช้าง ณ หมู่บ้านไทย (เปิดบริการทุกวัน )
- การแสดงช้าง เวลา 14.15 / 15.40 น.
- การแสดงศิลปวัฒนธรรม เวลา 14.45 - 15.35 น.
พิเศษเฉพาะเสาร์อาทิตย์และวันหยุดพิเศษ มีรถรางบริการฟรี คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม


วัดไร่ขิง
     วัดไร่ขิง ตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำท่าจีน ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม วัดไร่ขิงเป็นวัดที่ชาวนครปฐมรู้จักและเป็นที่นับถือของชาว จ.นครปฐม ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเลื่อมใสแห่แหนเข้ามานมัสการหลวงพ่อวัดไร่ขิงเป็นประจำ โดยเฉพาะวันหยุดและงานนมัสการปิดทองหลวงพ่อวัดไร่ขิงจะมีผู้คนเนืองแน่นเป็นอย่างมาก ซึ่งงานนมัสการหลวงพ่อวัดไร่ขิงจะจัดเป็นประจำทุกปี ซึ่งจะจัด ใ นช่วงวันขึ้น 12 ค่ำ ถึง แรม 5 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี ณ บริเวณวัดไร่ขิง อ.สามพราน ในงานมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าจากหน่วยงานต่างๆ มากมาย ช่วงกลางคืนมีมหรสพตลอดงาน จะมีประมาณ 9 วัน 9 คืน การเดินทางไปมาสะดวก คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม

วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร
     พระปฐมเจดีย์ เป็นเจดีย์องค์ใหญ่ ตั้งอยู่ในตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ห่างจากกรุงเทพประมาณ 60 กิโลเมตร นับว่าเป็นปูชนียสถานที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในไทย สันนิษฐานว่า สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงส่งสมณทูตมาเผยแผ่พระศาสนา นักปราชญ์ทางโบราณคดีเห็นพ้องกันว่า พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ เป็นสมณทูตและมาตั้งหลักฐานประกาศหลักธรรมคำสอนที่นครปฐมป็นครั้งแรก ในพุทธศตวรรษที่ ๓ และได้สร้างพระเจดีย์ทรงบาตรคว่ำ แบบเจดีย์สาญจิในประเทศอินเดียไว้
     องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า เป็นที่เคารพ สักการบูชาของ บรรดา พุทธศาสนิกชนทั่วโลก ทางวัดกำหนดให้มีงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ในวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ถึง วันแรม ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ รวม ๙ วัน ๙ คืน เป็น ประจำทุกปี
     องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ใหญ่ รูประฆังคว่ำ ปากผายมหึมา โครงสร้างเป็นไม้ซุง รัดด้วยโซ่เส้นมหึมาก่ออิฐ ถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องปูทับ ประกอบด้วยวิหาร ๔ ทิศ กำแพงแก้ว ๒ ชั้น คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม


พระราชวังสนามจันทร์
       พระราชวังสนามจันทร์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครปฐม ห่างจากกรุงเทพฯ ลงไปทางใต้ 56 กิโลเมตร บริเวณที่เป็นพระราชวังสนามจันทร์ อยู่ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ ไปทางตะวันตก ประมาณ 1 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณซึ่งเดิมเรียกว่า " เนินปราสาท " สันนิษฐานว่า เดิมคงเคยเป็นพระราชวังของกษัตริย์ในสมัยโบราณ ใกล้กับเนินปราสาทมีสระน้ำใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเรียกขานกันมาแต่เดิมว่า " สระน้ำจันทร์ " ( ปัจจุบันชาวบ้าน เรียกว่า สระบัว ) อยู่หน้าโบสถ์พราหมณ์ ครั้นต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ครั้งยังดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสสาธิราชฯ มีพระราชประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังที่ประทับขึ้น ณ เมืองนครปฐม สำหรับเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานในโอกาสเสด็จฯ มาสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ และเพื่อประทับพักผ่อนพระราชอิริยาบถ ทรงเลือกจังหวัดนครปฐม ด้วยเหตุที่ทรงคุ้นเคยกับภูมิประเทศของเมืองนี้ ทรงเห็นว่าบริเวณเนินปราสาทนั้นเป็นทำเลที่เหมาะ จึงทรงขอซื้อที่ดินจากราษฎรที่อยู่รอบๆ เนินปราสาท เพื่อจัดสร้างพระราชวังขึ้น รวมเนื้อที่ทั้งสิ้น 888 ไร่ 3 งาน 24 ตารางวา แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หลวงพิทักษ์มานพ ซึ่งต่อมาได้เลื่อนยศเป็น พระยาวิศุกรรมศิลป์ประสิทธิ์ ( น้อย ศิลปี ) เป็นผู้ออกแบบและดำเนินการก่อสร้างพระราชวังแห่งนี้ขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2450 ซึ่งตรงกับปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 การก่อสร้างพระที่นั่ง และพระตำหนักต่างๆ ได้ดำเนินการติดต่อกันนานถึง 4 ปี จึงแล้วเสร็จในปีพุทธศักราช 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระราชทานนามว่า " พระราชวังสนามจันทร์ " คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม


พิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตชาวนาไทย
          พิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตชาวนาไทยบ้านลานแหลมเกิดจากปณิธานของอ.เริงชัย แจ่มนิยม ที่ต้องการถ่ายทอดและอนุรักษ์ภูมิปัญญาเกี่ยวกับการทำนาในอดีตเมื่อราว 30 - 40 ปีที่แล้วไว้ให้คนไทยในสมัยนี้ได้รู้ อ.เริงชัยเริ่มเตรียมการทั้งในเรื่องสถานที่และสิ่งก่อสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2532 โดยเริ่มต้นด้วยการปลูกต้นสะเดาเป็นรั้วล้อมรอบบ้าน รอจนต้นสะเดาโตเต็มที่ จนในปี พ.ศ. 2541 จึงตัดมาทำเป็นเสาเรือนพิพิธภัณฑ์ที่ได้วางโครงสร้างไว้ให้เป็น "เรือนไทยเครื่องผูก" โดยใต้ถุนเรือนไทยได้จัดแสดงเครื่องมือเกษตรกรรม และเครื่องมือในการดำรงชีพแบบพื้นบ้านไว้จำนวนหนึ่ง และได้เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา
          การจัดแสดงและเนื้อหาแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ๆ แรกเป็นบริเวณของสำนักงาน "กลุ่มสตรีอาสาพัฒนาบ้านลานแหลม" ใช้เป็นที่บรรยายสรุปเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของบ้านลานแหลม และส่วนที่สองคือ พิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตชาวนาไทยบ้านลานแหลมและจัดวางผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจักสานจากเส้นใยผักตบชวา คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม


พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย
          พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย ตั้งอยู่เลขที่ 43/2 หมู่ 1 ถนนบรมราชชนนี (ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี) กิโลเมตรที่ 31 ตำบลขุนแก้ว เป็นสถานที่จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสซึ่งมีความสวยงามและเหมือนจริงให้ ความรู้สึกนุ่มนวล  ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์ของคุณดวงแก้ว  พิทยากรศิลป์และกลุ่มศิลปินไทยซึ่งใช้เวลาค้นคว้าทดลองกว่า 10 ปี โดยมีวัตถุประสงค์ในอันที่จะส่งเสริม เผยแพร่และอนุรักษ์ไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมและประเพณีของไทย
          ก่อตั้งโครงการเมื่อปีพ.ศ.2525 เปิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2532   ภายในอาคารแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นล่าง จัดเป็นห้องแสดงถาวรจำนวน 7 ห้องประกอบด้วยหุ่นชุดต่างๆ ได้แก่ ชุดพระอริยสงฆ์ ชุดพระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีและชุดมุมหนึ่งของชีวิตเป็นการ แสดงชุดหมากรุกไทย ชุดครอบครัวไทย ชุดเลิกทาส เป็นต้น ชั้นบน จัดเป็นห้องแสดงนิทรรศการชั่วคราวชุดต่างๆหมุนเวียนตามความเหมาะสม ปัจจุบันจัดแสดงเรื่องชุดครูเพลงไทย ชุดบุคคลสำคัญของโลก ชุดวรรณคดีไทย พระอภัยมณีของสุนทรภู่  ชุดการละเล่นของเด็กไทย ชุดประวัติศาสตร์ไทย  พิพิธภัณฑ์ฯ


ตลาดน้ำดอนหวาย          ตั้งอยู่ที่ ต. บางระทึก อ. สามพราน จ.นครปฐม ริมแม่น้ำท่าจีน ความยาวของตลาดประมาณ 300 เมตร อยู่ติดกับวัดคงคารามดอนหวาย
          ตลาดมีลักษณะตัวอาคารเป็นอาคารไม้เก่า ๆ ตั้งแต่อดีตสมัยรัชกาลที่ 6 ที่อยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน มีพ่อค้า แม่ค้า นำสินค้า และอาหารมาจำหน่ายในบริเวณวัดดอนหวาย มีตลาดนัดสินค้าทางการเกษตรที่วัดดอนหวายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. และมีเรือบริการนำเที่ยวชมทิวทัศน์ของสองฝั่งแม่น้ำท่าจีน
ตลาดเริ่มบูมตั้งแต่ปี 42-43 สมัย IMP ข้าวของแพง คนไทยประหยัด จึงค้นหาสินค้าราคาประหยัด

          เดิมทีเป็นเพียงตลาดภายในชุมชนที่ไม่ได้ใหญ่โตหรือมีชื่อเสียงโด่งดังอะไร ในยุคที่การสัญจรและการค้าขายทางน้ำยังคับคั่ง ชาวบ้านจะพายเรือแจวมาซื้อหาข้าวปลาอาหาร ที่ตลาดดอนหวายกันทุกวัน จนมาชั่วเวลาหนึ่ง สีสันการค้าขายของชุมชนแห่งนี้ก็จืดจางลงไป เนื่องจากมีการสร้างถนนวัดไร่ขิง ตัดผ่านหน้าชุมชนเมื่อประมาณ 30ปีที่แล้ว เป็นเหตุให้ชาวบ้านหันไปซื้อหาของจากนอกชุมชนแทน เพราะการเดินทางสะดวกขึ้น พ่อค้าแม่ขายในตลาดดอนหวาย จึงต้องโยกย้ายแหล่งทำมาหากินไปอยู่ที่อื่น ตลาดดอนหวายเกือบจะกลายเป็นตลาดร้าง มีร้านค้าอยู่ไม่ถึง 10 ร้านที่ยังคงยืนหยัดค้าขายอยู่


พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย          ตั้งอยู่ในสถาบันศิลปกรรม กรมศิลปากร ถนนพุทธมณฑลสาย 5 นครปฐม ในอาคารซึ่งเป็นโรงถ่ายภาพยนตร์จำลอง จัดแสดงประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทย  ขบวนการผลิตภาพยนตร์ไทย  อุปกรณ์ประกอบฉาก  มีการจัดแสดงหุ่นบุคคลสำคัญในวงการหนังไทยทั้งดารา และผู้สร้างหนังเพื่อยกย่องผู้ร่วมบุกเบิกสร้างสรรค์วงการหนังไทยเช่น หุ่นมิตร ชัยบัญชา นักแสดงที่อยู่ในความทรงจำของทุกคน โต๊ะทำงานของปยุต เงากระจ่าง ผู้สร้างภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องแรกของไทยคือเรื่องสุดสาคร เปิดวันเสาร์  เวลา  13.00-17.00 น.ไม่เสียค่าเข้าชม สอบถามรายละเอียด โทร. 0 2482 2013-5, 0 2482 1087-8 (เข้าชมเป็นรอบ ๆ ละ 15-20 น.) คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม